วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กระบวนการเริ่มต้น 9 แรกความสำเร็จ


กระบวนการเริ่มต้น 9 แรกความสำเร็จ
Step1.ใช้สินค้า, ศึกษาข้อมูลสินค้า
Step2.เรียนรู้ระบบ Team 248
Step3.การตั้งเป้าหมาย
Step4.List รายชื่อ
Step5.การนัดหมาย
Step6.การแสดงแผน
Step7.ติดตามผล
Step8.บทบาท
Step9.การเลียนแบบ

STEP1. ใช้สินค้า, ศึกษาข้อมูลสินค้า
- ทดลองใช้สินค้าแทบทุกชนิด
- ใช้ดีแล้วบอกต่อ คือ การแบ่งปันเรื่องราวของสินค้า
- สินค้าใช้ดีแล้วบอกต่อ ธุรกิจที่ดี ให้บอกเพื่อน
- สินค้าของเราให้สุขภาพที่ดี ผิวขาว ใส สวย
การใช้สินค้าเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ บางคนทำธุรกิจเพราะประทับใจในสินค้า พอใช้ดี มีคนมาเล่าให้ฟัง ก็อยากใช้บ้าง เพราะฉะนั้นต้องลองใช้สินค้า ในเมื่อเราลงทุนซื้อสินค้ามาแล้ว เป็นวิธีการเริ่มต้นธุรกิจที่ง่ายที่สุด คือ ใช้สินค้าด้วยตัวคุณเอง
จงรักผลิตภัณฑ์ที่ท่านใช้หรือจำหน่าย
เป็นลูกค้าทีดีที่สุดของตัวท่านเอง
ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวของท่านเอง

STEP2. เรียนรู้ระบบ Focus System
- จากเว็บไซต์ www.mbk.in.th
- เรียนรู้จากการบรรยายทางออนไลน์
- เข้าหลักสูตร
- CD ข้อมูลการเริ่มต้นธุรกิจ, แผนการตลาด, สินค้า
- CDแนวทางดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง
ธุรกิจนี้จะสำเร็จได้ “คุณต้องสร้างเครือข่าย” ถึงแม้ว่าบริษัทฯจะมีแผนการตลาดที่ดี สินค้าดี บริษัทมั่นคงเพียงใดก็ตามยังไม่พอ “คุณต้องสร้างเครือข่าย” โดยใช้ระบบ “คุณต้องสร้างเครือข่าย จึงจะสำเร็จ” การสร้างเครือข่ายเป็นหลักการที่สำคัญมากๆ
คุณจะมีรายได้จากไหนครับ? จากการสร้างเครือข่าย
คุณจำเป็นต้องมีระบบมาควบคุมองค์กรของคุณ
คุณต้องมีวิธีการ ที่สามารถทำให้องค์กรของคุณ เติบโตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยการใช้ระบบ

ทำไมต้องมีระบบ?
1.เพราะธุรกิจเครือข่ายนี้คุณไม่ได้ทำคนเดียว ไม่ใช่ธุรกิจที่คุณจะเป็น One Man Show ทำคนเดียวเก่งคนเดียว ธุรกิจนี้ “คนขายเก่งมือทอง” ไม่ประสบความสำเร็จก็เยอะแยะ เพราะอะไรทราบไหมครับ?
- เหตุผลคือ ธุรกิจนี้เราไม่ใช้ความสามารถส่วนตัวทำคนเดียว
- ธุรกิจเครือข่าย คือ การทำเครือข่ายขนาดใหญ่
- ถ้าคุณไม่มีวิธีการที่จะทำให้คนในองค์กรเลียนแบบ-ทำซ้ำได้ “มันจะจบที่ตัวคุณเอง”
2.เพราะระบบ สามารถควบคุมองค์กรของคุณได้ มีระบบจัดการอย่างมืออาชีพที่จะควบคุมระบบงานได้ และไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เช่น ผู้จัดการธนาคารคนนี้ลาออกไป ใครก็ได้สามารถมานั่งควบคุมระบบต่อไปได้ ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่คนนี้ไม่อยู่ เลิกกิจการไปเลย แบบนั้นมันไม่ใช่ระบบแล้ว
- ระบบเครือข่ายไม่ได้ใช้ความสามารถส่วนตัวของคุณเพียงลำพังคนเดียว แต่เขาใช้ระบบในการทำงาน
นั่นคือเหตุผลที่ว่า “ทำไมต้องมีระบบ?
เพราะถึงจุดหนึ่งไม่มีคุณ “ระบบก็ยังทำงานอยู่ ทุกคนยังทำงานตามระบบ และเติบโต”
ถ้าคุณทำธุรกิจเครือข่ายบริษัทอะไรก็ได้
“ไม่มีระบบในการทำงาน ทำตามมี ตามเกิด แล้วแต่ใจอยากจะทำ”
คุณก็ไม่ต่างอะไรกับลูกจ้างตัวเอง คุณอาจจะใช้วิธีการแบบใดก็ได้จนสำเร็จขึ้นมาระดับหนึ่ง
รายได้เยอะแยะมากมายโดยที่ไม่ใช้ระบบก็ได้
แต่ไม่มีใครรับรองคุณได้หรอกว่า “คุณจะมีรายได้ตลอดไปหรือปล่าว?
แต่วันนี้สิ่งที่แตกต่างก็คือ คุณกำลังรับโอกาส เพื่อจะผันตัวเองจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา อย่างแท้จริง
นี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆถ้าคุณทำธุรกิจนี้ วันนี้
“คุณต้องทำแล้วสำเร็จ...สำเร็จอย่างเดียว”
เพราะเรามีระบบแห่งความสำเร็จ ที่มีคนก็อปปี้ทำแบบเราได้ เลียนแบบระบบนี้ต่อไปได้
ยุคนี้เป็นยุคแห่งการทำงานแบบมืออาชีพ ต่อไปนี้เราจะไม่ผิดพลาดในการทำธุรกิจ
ซึ่งระบบนี้ เป็นหลักการประสบการณ์ของคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายที่สำเร็จมาแล้วทั่วโลกที่ สำเร็จจริงๆเราไม่ต้องมาลองผิดลองถูกอีกแล้ว เสียเวลา คุณเพียงเดินตามระบบ ทำตามระบบ
“คุณก็ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นได้”
ระบบเครือข่าย ใช้หลักการของเฟรนไชน์ที่มีคนทำมาก่อนเราแล้วประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก
นำมารวบรวมเป็นขั้นตอนไว้ให้
“เฟรนไชน์” เรานึกถึงอะไรครับ? เซเวนอีเลฟเว่น แม็คโดนัล ฟิชซ่า....
คำถาม “ร้านโชว์ห่วย กับ เซเวนอีเลฟเว่น แตกต่างกันอย่างไร?
ร้านโชว์ห่วย-ไม่มีระบบ เซเวนอีเลฟเว่น-มีระบบ
สินค้าก็ไม่ได้แตกต่างกัน เผลอๆในเซเวนอีเลฟเว่น แพงกว่าร้านโชว์ห่วยด้วยซ้ำ
แต่ทำไมเขาประสบความสำเร็จ? เพราะเขามีระบบที่ควบคุมได้ สามารถดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านสม่ำเสมอ , สามารถคอลโทรลได้ , สามารถเลียนแบบได้เหมือนกันทุกคน
ถ้าคุณต้องการความสำเร็จในธุรกิจแบบนี้ คุณมีเงินไปซื้อระบบเฟรนไชน์มาคุณก็ทำได้เลย
แต่ในธุรกิจเครือข่าย เราไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมากขนาดนี้
ธุรกิจเครือข่ายคือ เฟรนไชน์ เป็นระบบประสบการณ์ที่จะช่วยสอนให้คุณทำธุรกิจนี้ได้เลยทำแบบมืออาชีพ
ประสบความสำเร็จได้เลยแบบมืออาชีพ สุดยอดไหมครับ? เพราะนี่คือระบบแห่งความสำเร็จ
สอนการทำงานแบบคนสำเร็จทำกัน และผู้ที่เข้าสู่ระบบ ก็ต้องประสบความสำเร็จเช่นกัน
คุณต้องการประสบความสำเร็จไหม? คุณต้องมีระบบ มีระบบทำงาน
3.เพราะธุรกิจนี้ “ตัวเราสำคัญที่สุด” ระบบจะพัฒนาคุณให้เป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของธุรกิจอย่างแท้จริง
- เปลี่ยนคุณตั้งแต่ แนวคิด ความฝัน
- เปลี่ยนคุณตั้งแต่ ความรู้สึก สร้างความเชื่อมั่นว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่สามารถประสบความสำเร็จได้
- เปลี่ยนและสร้างบรรยากาศ กระตุ้นให้คุณมีความรู้สึกว่าสามารถประสบความสำเร็จได้
เพราะนี่คือระบบที่จะช่วยคุณ เป็นเครื่องมือช่วยทุกคนที่เข้าสู่ระบบ
4. เพราะเราต้องการให้เครือข่ายนี้สามารถเลียนแบบทำซ้ำได้ ใครก็ตามที่เข้ามาในธุรกิจนี้สามารถเลียนแบบได้ ระบบถูกออกแบบมาเพื่อให้ใครๆก็ทำได้ คนที่เข้ามาในระบบนี้ทุกคนทำได้ประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ต้องทำเหมือนกัน แบบเดียวกัน ระบบเดียวกัน อ่านหนังสือ ฟังซีดี เหมือนกัน
มีโปรแกรมเทรนนิ่งให้สมาชิกใหม่ทุกคน เพราะไม่อยากให้คนใหม่ๆเขาผิดพลาดในการทำงานในระบบนี้
ในธุรกิจนี้ชัดเจนนะครับ “เพราะนี้คือระบบแห่งความสำเร็จ”
“เพียงคุณทำตามระบบ เลียนแบบ ทำซ้ำ เท่านั้น...”
การเปลี่ยนจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา คุณต้องมีบรรยากาศที่ดี คุณต้องเปลี่ยนบรรยากาศ
การเปลี่ยนจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา คุณต้องเปลี่ยนแนวคิด คุณต้องเปลี่ยนการกระทำ
การเปลี่ยนจากคนจน เป็นคนรวย คุณต้องทำงานกับระบบเครือข่าย ไม่มีทางเลือก
คุณต้องมีระบบ อ่านหนังสือ ฟังซีดี เข้าร่วมประชุม...
เริ่มต้นอย่างไร? คุณต้องมี
1.ความฝันคุณต้องกล้าฝัน กล้าคิดใหญ่ ฝันใหญ่ ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความฝัน ฝันว่ามันเป็นไปได้ ฝันในสิ่งที่มันเป็นไปได้ และเราสามารถทำได้ เราทำได้ ไม่ใช่เราทำไม่ได้
2.เป็นนักเรียนที่ดี คนที่จะสำเร็จได้ ต้องพร้อมที่จะเป็นนักเรียนที่ดี พร้อมด้วยใจ เปิดใจเรียนรู้ คนที่เริ่มต้นในธุรกิจเครือข่ายนี้ค่อนข้างช้า เพราะมีอีโก้ “ไม่เปิดใจ”
- คุณต้องเป็นนักเรียนที่ดี เข้าประชุม อ่านหนังสือ ฟังเทปซีดี มาประชุมสม่ำเสมอ
- การจะเปลี่ยนจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แม้จะเปลี่ยนชั่วข้ามคืนไม่ได้ ต้องใช้เวลา แต่วันที่เราประสบความสำเร็จมันคุ้มค่าเหลือเกิน นักมวยเหรียญทองโอลิมปิค เขาต้องใช้เวลาฝึกซ้อมมานานแรมปี นักเทนนิสระดับโลก ซ้อมกันมานานมาก และก็ยังซ้อมต่อไปเรื่อยๆเพื่อรักษาแชมป์ ฉะนั้นคุณต้องเป็นนักเรียนที่ดี
3. มีส่วนร่วมในการเป็นผู้นำ ตัวอย่างเช่น
1. ชวนคนมาแสดงแผนให้ดู 8 ครั้ง/เดือน ต้องเรียนรู้การเขียนแผนอย่างมืออาชีพ ต้องฝึกเขียนแผน
2 ใช้สินค้าของบริษัทเรา ต้องใช้ให้รู้สึกว่ามันดีจริงๆ
3. สร้างลูกค้าประจำ 10 ราย เป็นตัวอย่างให้องค์กร เราไม่ต้องการขายเยอะๆ แต่เราต้องการสร้างลูกค้าประจำ
4. เข้าร่วมคอร์ส การฝึกอบรม
5. อ่านหนังสือ ฟังเทปซีดี ในระบบที่จะสอนคุณ เปลี่ยนแนวคิดของคุณ
6. ทำงานเป็นทีม ปรึกษาอัพไลน์สม่ำเสมอ
7. ประชุมอย่าได้ขาด “ถ้าเข้าประชุมแล้วประสบความสำเร็จคุณยอมไหม?” นี่คือพื้นฐานที่สำคัญ

STEP3. การตั้งเป้าหมาย
- แนะนำ 2 คน เบื้องต้น ภายใน 1 สัปดาห์
- แนะนำ 10-20 คน ภายใน 1 เดือน
- ค้นหาสายหลัก 2 สาย ลงทำงานในแนวลึก
เช็คเป้าหมายของเราซิว่ามีเป้าหมายอย่างไร?
ถ้าไม่มีเป้าหมายแล้ว ยากมากที่จะประสบความสำเร็จ!
เหมือนเรายิงปืน เราต้องมีเป้าหมายจึงจะยิงถูก ใช่ไหมครับ?
การที่คนเราจะได้อะไรมาสักอย่างหนึ่งนั้นหากเราไม่มีความปรารถนาแล้ว เราก็คงจะไม่ได้มันมา เพราะเราไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นอย่างจริงจัง แต่ความปรารถนาก็ยังไม่เพียงพอเพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกที่อยู่ในใจ การที่จะทำให้มันกลายเป็นรูปธรรมมากขึ้นก็คือการตั้งเป้าหมาย การที่เราจะตั้งเป้าหมายให้เป็นรูปธรรมนั้น ก่อนอื่นเราจะต้องนำความปรารถนาหรือความฝันที่อยู่ในอากาศมาทำเป็นรูปธรรม ขั้นต้นเสียก่อน ด้วยการเขียนมันลงไปบนแผ่นกระดาษ หรือว่า อาจจะพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์ก็ยังได้ในสมัยนี้ การที่เราถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นคำพูดแล้วทำให้ตาได้เห็นด้วยการเขียนลงบน กระดาษนั้น เป็นการสะสางความคลุมเครือได้อย่างดี คือเป็นการตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน แล้วยังเป็นการบอกย้ำลงไปในจิตใต้สำนึกของเราอีกชั้นหนึ่งเหมือนจารึกอักษร ลงบนศิลาจารึก....
ดังนั้นคุณจะต้องแปลงความปรารถนาลงบนกระดาษเสียก่อน ในตอนที่เขียนลงไปก็อย่าไปมีข้อจำกัดว่าจะทำได้หรือไม่ อยากได้อะไร อยากเป็นอะไรก็เขียนลงไปโดยไม่ต้องยกปากกา ทำราวกับว่าเราเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งที่อยากได้โน่นอยากได้นี่…ต้องเริ่มจาก ตรงนี้ก่อนเลย
“อย่าคาดหวังความสำเร็จ ถ้าไม่ได้ตั้งเป้าหมาย”
เช่น เป้าหมาย ชวนคนให้ได้ 2 คน ภายใน 2 สัปดาห์
เป้าหมายภายใน1เดือนจะชวนคน 5 คน ทำเป็นเวลา 6เดือน คุณทำแบบนี้จนเป็นนิสัย
การทำงานในธุรกิจนี้ เริ่มต้นต้องที่ ความฝัน + เป้าหมาย
“คุณต้องคิดให้ได้ ถ้าคิดไม่ได้อย่างอื่นไม่ต้องไปพูดถึง ไม่มีทางทำได้”
เช่น ต้องการรถยนต์ ต้องการยี่ห้ออะไร? สีอะไร? ต้องการเมื่อไร?
ถ้าทีมงานยังไม่มีสิ่งเหล่านี้คุณจะเสียเวลาเปล่า ต้องถาม...
“คุณต้องการบ้านหลังใหม่ราคาเท่าไร?” เจาะจงราคา ถ้าความฝันไม่ผ่าน ให้คุณไปอบรมจากบรมโคตรวิทยากร อัดข้อมูลวิชาการ ใส่ไฟเข้าไป ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ยาก! ไม่มีโอกาสสำเร็จ
ต้องให้ลูกทีมหรือทีมงานของคุณบันทึกในสิ่งที่เขาต้องการออกมา เขียนลงไป กระตุ้นให้เกิดความอยากบ่อยๆ พูดถึงบ่อยๆเรื่องความฝัน บ้านหลังใหม่ รถยนต์คันใหม่ รายได้เดือนละเป็นแสน ให้เขาเขียนลงไปให้ชัดเจน แล้วกำหนดเวลาให้ชัดเจน....
“คุณจะชวนคนมาร่วมธุรกิจนี้กี่คนครับ?” คุณจะชวนคนเข้าร่วมกี่คนไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า
“คุณจะช่วยเหลือทีมงานให้ประสบความสำเร็จกี่คน? กี่คน?
สำคัญที่ว่าคุณจะช่วยเหลือทีมงานให้ประสบความสำเร็จกี่คน

STEP4. List รายชื่อ
หลายคนล้มเหลวในธุรกิจเครือข่ายเพราะ ไม่ทำตามระบบ ตามขั้นตอน ไม่ทำตาม ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
คุณมีความฝันมีความต้องการมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะสำเร็จเมื่อไร แต่ไม่มีรายชื่อก็จบ
จบเพราะไม่รู้จะไปชวนใคร? ทำธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่ไปชวนคนสะเปะสะปะ แบบนี้ยากที่จะสำเร็จ
ไม่ใช่ยากธรรมดา แต่มันยากมากๆ
เพราะฉะนั้นรายชื่อถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะจะบอกถึงทีมงานในอนาคตว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน
จะบ่งบอกถึงความมั่นคงในธุรกิจของเราเอง และรายชื่อจะบอกถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นรายชื่อสำคัญมากๆ รายชื่อ 50 คนแรก ต้องเขียนออกมาให้ได้ถ้าอยากสำเร็จ แล้วมาคัดเลือกคนที่
1.คนที่มีความต้องการ ความมั่นคงด้านการเงิน
2.คนที่อยากมีรายได้เสริม
3.คนที่ต้องการทำธุรกิจ
4.คนที่มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำ
5.คนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
ต้องเลือกคนตาม Spec แบบนี้เลยนะครับ ในต่างประเทศทำไมเขาทำธุรกิจโตมากๆ เพราะเขาคัดคนเข้ามาร่วมทำงานเป็นลูกทีม หรือทีมงาน เขาเป็นฝ่ายคัดเลือก
งานนี้ก็เหมือนกับการแต่งงาน “เราเลือกเขา หรือเขาเลือกเรา...เราเลือกเอง...”
ผู้หญิงตอนจะแต่งงานนี้ “เราเลือกผู้ชาย หรือผู้ชายเลือกเรา?” เราเลือกเขาไม่ใช่เขาเลือกเรา ลูกทีมเราก็ต้องเลือก ต้องคัดคนที่มีคุณภาพเข้าสู่ธุรกิจ คัดคนที่ต้องการความสำเร็จจริงๆ ไม่ใช่ไปบังคับให้เขามารวย
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคนนี้ใช่ คนนี้ไม่ใช่? “ต้องสัมภาษณ์” ไปหามา แล้วถามเขา
ต้อง List รายชื่อเท่าไร? คำตอบ 50 คนแรกก่อนเลย “40 คนได้ไหม?” ได้!แต่มันไม่เป็นไปตามสูตร
อย่าง Modeling จะสัมภาษณ์นางงามต้องมี Specส่วนสูงขั้นต่ำ170 ซม. สัดส่วน 36 22 36 ถ้าส่วนสูง 160 ซม. สัดส่วน 36 36 36 ได้ไหม? มันไม่ได้ มันไม่ผ่าน มันไม่ตาม Spec แบบนี้ต้องไปทำอย่างอื่น เพราะสูตรมันไม่ได้ ถ้าจะได้ต้องไปลดหุ่นซะก่อน ที่คนไม่สำเร็จเพราะมาตรฐานไม่ได้...
อาหารเสริมต้องมี อย. คนเราก็ต้องมี อย. เหมือนกัน
โรงงานอุตสาหกรรมต้องมี มอก. ISO 9001 ISO 9002 คือมาตรฐานต้องได้ คุณต้องถามลูกทีมของคุณด้วยคำถาม 5 ข้อแบบนี้แหละ...
“คุณต้องการความมั่นคงด้านการเงินไหม? คุณต้องการรายได้เสริมใช่ไหม? คุณต้องการทำธุรกิจส่วนตัวใช่ไหม?” มันต้องมีมาตรฐาน ที่ล้มเหลวเพราะไม่มีมาตรฐาน
ถามว่าไม่ทำตามขั้นตอนได้ไหม? ได้ แต่ไม่สำเร็จ
ที่ล้มเหลวเพราะเราไม่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่เราไม่ดีนะครับ เราไม่ได้ทำตามสูตร...
ธุรกิจระบบเครือข่ายหัวใจสำคัญ คือ สร้างงาน เพื่อ สร้างเงิน
- คุณไม่มีลูกทีม แน่นอนคุณไม่มีรายได้ ไม่มีเงิน
- คุณมีลูกทีม แน่นอน คุณมีรายได้ มีเงิน
- ถ้าลูกทีมยังไม่ได้เงิน คุณก็ยังลำบาก ต้องช่วยให้ลูกทีมได้เงินด้วย คุณจึงจะได้เงิน
- ที่คุณไม่มีลูกทีม เพราะคุณไม่ใช้สูตร คุณต้องทำตามสูตรนะครับ ชัดเจนนะ
ทุกอย่างจะเกี่ยวข้องกันหมดโยงใยกันเกี่ยวข้องกับคน พลังของธุรกิจเครือข่ายอยู่ที่ฐานคือคนใหม่ๆ
สร้างตึกยังต้องตอกเสาเข็มสร้างฐานให้มั่นคง บ้านที่มั่นคงต้องมีเสา ต้องสร้างฐานในการเริ่มต้นให้ถูกต้องนะครับ ถ้าเราสร้างฐานดีๆลูกทีมมีรายได้ ลูกทีมจะมีพลัง ถ้าเรามีพลัง ทีมงานเราจะตื่นเต้นคึกคักจริงไหม?
ธุรกิจนี้จะตื่นเต้น เมื่อลูกทีมเรามีรายได้ และตัวเรามีรายได้
คุณต้องสร้าง Power สร้างพลัง สร้างฐานให้มีมาตรฐาน “คุณต้องมีรายชื่อ ต้องสร้างรายชื่อ”
เพราะฉะนั้นคนใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในธุรกิจนี้ อย่าให้ออกไปชวนคน อย่าให้ออกไปขายสินค้า
ให้เขาเขียนรายชื่อ...ให้เขียนรายชื่อให้ได้...อย่าคิดข้ามขั้นตอน...เขียนรายชื่อ
ข้ออ้างต่างๆ คุณอย่าเพิ่งกังวล เช่นไม่รู้จะไปขายใคร? จะไปขายอย่างไร? จะไปชวนใคร? ไปชวนแล้วเขาจะมาหรือไม่? มาแล้วเขาจะทำหรือปล่าว? ทำแล้วจะสำเร็จไหม? คุณไม่ต้องกังวล
คุณเขียนรายชื่อก่อน คุณต้อง List รายชื่อก่อนสิ่งที่คุณคิดสิ่งที่คุณถามมีคนถามมาก่อนคุณเป็นล้านๆคนแล้ว หน้าที่ของคุณตอนนี้คือเขียนรายชื่อ...เขียนรายชื่ออย่างเดียวอย่าเพิ่งคิด มาก บริษัทจะเป็นอย่างไร? อนาคตจะเป็นอย่างไร? ทำไปมันจะตันไหม? ทำแล้วหยุดทำได้ไหม? กลัวทำไปบริษัทจะเจ๊ง คุณอย่ากังวลหน้าที่คุณตอนนี้คืออะไรครับ? เขียนรายชื่อ <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
วันนี้ผมจะขับรถแท็กซี่ให้คุณนั่ง คุณไม่ต้องมานั่งคิดกังวลว่ารถยนต์มาจากอู่ไหน? ใช้สีอะไร? ใช้แอร์ยี่ห้ออะไร? ยางรถยนต์มาจากประเทศอะไร? แล้วมันจะมาถามทำไม?
คุณไม่ต้องกังวล “ผมจะขับให้คุณนั่ง คุณอยู่เฉยๆ หน้าที่คุณคือจ่ายเงินเมื่อถึงที่หมายเท่านั้น”
หลายคนเป็นแบบนี้ คิดมาก-กังวลมาก ไม่ต้องกังวลมาก แค่คุณทำตามระบบที่ผู้แนะนำบอกคุณก็พอแล้ว
อย่าลัดขั้นตอน ต้องทำตามสูตร ใช้คำถามทีละคนกับสมาชิกใหม่ เช็คทีละคนว่าคนไหนมีความฝันมีความต้องการอย่างไร? โดยการใช้คำถามนี่แหละ
- ชอบใช้สินค้าอย่างเดียว ก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเขามากนัก ให้ข้อมูลสินค้า
- อยากทำธุรกิจ ไม่มีทางอื่นอีกแล้วพาเข้าระบบ พาเข้าประชุม เข้าอบรม อย่าปล่อยให้คนใหม่ออกไปทำงานโดยที่ยังไม่ได้รับการอบรม คุณจะหนีจากกฎข้อนี้ไม่ได้ ต้องทำตามระบบนะครับ
การทำรายชื่อ
สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือ PV ที่มัน Forever ต้องการรายได้ที่มันได้ตลอดไป เราไม่ต้องการแบบเคยได้รับ เคยได้เป็น เราไม่อยากเป็นแบบนั้น เคยยิ่งใหญ่ เคยเป็น
ตัวบ่งชี้ทางธุรกิจ ที่จะบอกว่าคุณจะเติบโต หรือไม่เติบโต คือ
จำนวนคนในสายงาน ต้องให้ความสำคัญกับลูก 2 คนแรก พัฒนาเป็นผู้นำลึกลงไป หลาน เหลน
คุณต้องมีชุดสมัครใหม่ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ ต้องเพิ่มใบสมัครในแต่ละสัปดาห์
คุณต้องมีรายชื่อ คุณต้องโทรนัดหมาย พูดแผน (นัดมา-ไปหา)
ระบบ 248 นี้จึงบอกว่า คุณต้องหา 2 คน พาเข้าระบบให้ได้ เพื่ออะไรครับ?
เลียนแบบทำซ้ำ-เลียนแบบทำซ้ำ
เราอาจต้องลงไปช่วยทีมงาน ช่วย Sponsor เพิ่มมากขึ้น ลูก หลาน เหลน (248)
แล้วอะไรจะทำให้เราได้ใบสมัครใหม่เพิ่มขึ้น? Hm. Center ประชุม จำนวนคนที่มาประชุม
ลูก หลาน เหลน บอกถึงความมั่นคงในธุรกิจ เหมือนปลูกถั่วงอก 7วัน มันจะค่อยๆงอกแล้วเก็บเกี่ยว แต่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวในระยะยาวได้ ยังต้องเหนื่อยตลอดไป แต่ชาวสวนปลูก ทุเรียน มะม่วง 2 ปีแรก อาจไม่เห็นอะไร แต่ระยะยาวใครมั่นคง? เก็บเกี่ยวได้ยาวกว่ากัน ปีแรกจึงต้องรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยๆเขียนแผนๆ
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความมั่นคง มันเป็นรากแก้ว และรากฝอยเลยนะ
เราจึงต้องใช้ที่ประชุม ในการพัฒนาองค์กรของเรา
เราใช้ที่ประชุม ในการปรับทัศนคติองค์กรของเรา
เราใช้ที่ประชุม ในการศึกษาทีมงานของเรา
เราใช้ที่ประชุม ในการสร้างองค์กรของเรา
เราใช้ที่ประชุม ในการสอนให้ทีมงานเลียนแบบ-ทำได้
การทำบัญชีรายชื่อ มีความสำคัญต่อระบบ, ต่อการสร้างการตลาด
1.รายชื่อเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในระบบ จะยืดหยุ่น, ลัดขั้นตอนไม่ได้ ถ้ามีฝันที่ยิ่งใหญ่ ต้องมีบัญชีรายชื่อ เพราะรายชื่อคือ
- ขั้นตอนแรกของระบบ , เป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้องและเร็วที่สุด และง่ายที่สุด
- เป็นการวางแผนที่ถูกต้อง, ขบวนการแรกของการระบบ
- เป็นสัญญาณบอกถึงความสำเร็จอย่างแน่นอน
- เป็นนักสร้างเครือข่ายที่ชาญฉลาด
- เป็นการเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นสร้างเครือข่าย
- รายชื่อคือ ความฝัน และ เป้าหมาย มีรายชื่อ-มีความฝัน มีความฝัน-มีรายชื่อ
รายชื่อ จะนำมาซึ่ง การเคลื่อนคน-เคลื่อนสินค้า
2. Listรายชื่อ คือการเริ่มต้นที่ถูกต้อง อย่าไปตื่นเต้นกับคนขายของเก่ง ให้ตื่นเต้นกับคนที่มีรายชื่อเยอะๆ
- เราจะให้เวลาสอนงานกับคนที่ มีรายชื่อเท่านั้น
- คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เขาใช้เวลาส่วนมาก 90% ทำอะไร?
พิจารณารายชื่อ-ทำรายชื่อ-หารายชื่อ-โทร
คนใหม่ๆที่เข้ามา เขาไม่รู้หรอกว่าจะเริ่มต้นอย่างไร? คุณต้องบอกให้เขาทำรายชื่อ..
คนใหม่ๆที่เข้ามา เขาจะตื่นเต้นอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าเขาไม่ทำรายชื่อ...
คนใหม่ที่เข้ามา เขาจะมีความมั่นใจ-ไม่มั่นใจ ต้องบอกเขาว่า ทำไมต้องทำบัญชีรายชื่อ..
3.รายชื่อ คือต้นทุนทางธุรกิจ
- รถเบ็นซ์สุดหรู ราคาแพงโคตรๆ ไม่มีน้ำมัน ก็ไม่มีความหมาย
- ธุรกิจที่ดีที่สุดในโลก คุณไม่มีรายชื่อ ก็จบ...จบ
มันไม่มีความสำคัญเลย-มีความหมายเลย..ถ้าคุณไม่เริ่มต้นทำรายชื่อ
- รายชื่อจึงเป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุดในระบบนี้ ธุรกิจทุกอย่าง จึงมีต้นทุน มีวัตถุดิบ...
- ข้อนี้สำคัญมากๆอย่ามองข้าม
4.รายชื่อ คือจุดเริ่มต้นการทำงานเป็นทีม
5.รายชื่อ คือ การเริ่มต้นเข้าสู่ระบบ
6.รายชื่อ มันบ่งบอกถึงเป้าหมาย และความฝัน
7.รายชื่อ เป็นการเรียนรู้ที่จะปิดจุดอ่อน ของการทำธุรกิจ
- บางคนเป็นเด็ก, ไม่มีทุน, ไม่มีรถ, พูดไม่เก่ง
8.รายชื่อ เป็นการเรียนรู้ที่จะทำงานแนวลึก
9.รายชื่อ เป็นจุดขับเคลื่อนMomentum
บัญชีจะนำมาซึ่ง การเคลื่อนคน เคลื่อนสินค้า....
ทำไมไม่ทำบัญชีรายชื่อ?
-เพราะไม่รู้ว่าเป็นขั้นตอนแรกของระบบ ที่สำคัญที่สุดของการธุรกิจ
-เพราะมีทัศนคติไม่ถูกต้องในการการชวนคน
-ขาดความเชื่อมั่นในธุรกิจ,ในระบบ เพราะไม่รู้จักบริษัท,ไม่ศรัทธา-ไม่เชื่อ
-ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะทำได้หรือไม่?
-คนใหม่ชอบคิดแทนคนอื่น ถ้าเขารู้ว่าธุรกิจ เขาทำสำเร็จมันจะสุดยอดแค่ไหน
-คนใหม่นึกไม่ออก
-คนใหม่เขาไม่รู้ว่านี่คือระบบแรก นี่คือเครื่องมือ
-คนใหม่เขายังไม่มีเป้าหมาย ต้องช่วยเขาตั้งเป้าหมาย เช่นหาคนสัปดาห์ละ 2 คน
-คนใหม่เขากลัว คิดว่ามันยาก กลัวเสียหน้า กลัวล้มเหลว กลัวความสำเร็จ
-คนที่ล้มเหลวส่วนมากเข้าใจผิด เพราะไปคาดหวังกับใครบางคน

Step5. การนัดหมาย หัวใจของการนัดหมาย คือให้ได้การนัดหมาย
ลักษณะการนัดหมาย
1.นัดหมายเชิญแบบตัวต่อตัว ดี แต่ ช้า
2.นัดมาเป็นกลุ่ม ดี เร็วขึ้น
3.นัดหมายเฉพาะผู้นำ คือเอาหัวหน้ามาเลย แบบนี้ดี แต่...ยาก <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
คุณสามารถใช้แนวทางนี้ในการเชิญคน ระบบการนัดหมาย7 Step ดังนี้
1.ทักทาย สิ่งที่จะต้องถามในการทักทายเสมอ ต้องทักทายเสมอ (เน้น)
“สวัสดีครับคุณ...................สบายดีนะครับ”
“เป็นยังไงครับคุณน้อย? สบายดีนะครับ”
คำว่าสบายดีไหมครับ? ต้องถามทุกครั้ง เพราะบางทีเราถามเขา แล้วเขาบอกว่าไม่สบายก็ไม่ต้องไปพูดอะไรมากอีกแล้ว..อย่าไปคุยกับคนที่ไม่ สบาย เพราะสภาพเขาไม่พร้อม ต้องทักทายเสมอนะครับ
2.รีบไป การเชิญคนคือการนัดหมาย ไม่ใช่เล่าให้ฟัง
“ขอรบกวนเวลา 2 นาที สะดวกคุยไหมครับ?
ต้องพูดทุกครั้งเพราะบางทีเขาไม่สะดวก เขากำลังทำงาน กำลังซักผ้า กำลังทำกับข้าว เขาไม่สะดวกเราก็ไม่ต้องรีบคุย...อาจยังไม่ต้องคุย...คือบางคนถูกเวลา ไม่ถูกใจ
“คุณน้อยสวัสดีครับ...คุณน้อยสบายดีนะครับ...ขอรบกวนเวลา 2 นาทีสะดวกคุยไหมครับ...” ถามก่อนที่เราจะคุยในSTEPที่3 ต่อไป หลายคนไปคุยไม่ถูกเวลา ไม่ถูกกาลเทศะ ไม่ถูกใจลูกค้า คือไปรบกวนเขาในเวลาที่เขาไม่สะดวก เขาจะปิดใจเขาจะไม่คุย เราก็ไม่สำเร็จ
“คุณมะลิสบายดีนะครับ ผมมีข่าวดีมาบอก ขอรบกวนเวลา 2 นาที สะดวกคุยไหมครับ?
“คุณสันติสบายดีนะครับ? ผมมีสิ่งดีๆมาบอกคุณ ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที สะดวกไหมครับ?
แบบนี้โอโฮ!! เยี่ยมมาก!!
3.ค้นหา
“ผมกำลังค้นหาผู้ร่วมงานธุรกิจที่กำลังมาแรงมากๆในยุคนี้...สนใจคุยรายละเอียดไหมครับ?
“ตอนนี้เรากำลังค้นหาคนที่ต้องการความมั่นคงด้านการเงินอย่างคุณ....”
คนที่บุคลิกดีแบบคุณ,คนที่เป็นผู้นำแบบคุณ,คนที่มีความสามารถแบบคุณ,คน ที่ต้องการรายได้เสริมแบบคุณ ,คนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวแบบคุณ ,หุ้นส่วน, เพื่อนร่วมงาน
“ผมกำลังค้นหา...เพื่อนร่วมงาน....กับธุรกิจที่กำลังHOTมากๆตอนนี้”
สิ่งที่เราต้องถามเสมอในการนัดหมาย คือคำพูดว่า...
“สนใจคุยรายละเอียดมั๊ยครับไหมครับ?
การค้นหาคน ที่มีความต้องการมีรายได้เสริม ต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น ต้องการมีความมั่นคงในชีวิต คนที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง “สนใจคุยรายละเอียดมั๊ยครับ?
4.ท้าทาย ใช้คำพูดลักษณะแบบนี้
“ผมไม่ทราบว่าคุณจะสนใจหรือปล่าว ได้ข่าวว่าร่ำรวยแล้ว”
“แต่ไม่ทราบว่าคุณพี่จะสนใจหรือปล่าว เห็นว่างานยุ่ง”
“ก็ไม่ทราบว่าคุณพี่จะทำได้หรือปล่าว?เพราะเห็นว่ากิจการงานก็ดีอยู่แล้ว”
5.นัดหมาย “งั้นตอนเย็นวันจันทร์ เวลา 6 โมงเย็นเราพบกันนะครับ”
6.ตอกย้ำ “อย่าลืม ตอนเย็นวันจันทร์ เวลา 6 โมงเย็นเราพบกันนะครับ”
7.อำลา “สวัสดีครับ”
นัดหมาย ไม่ใช่ เล่าให้ฟัง…
นัดหมาย ไม่ใช่ ขายของ...
นัดหมาย ไม่ใช่ พูดแผน....

Step6. การแสดงแผนแสดงแผน
เล่าเรื่องของธุรกิจที่สวยงาม ถามถึงสิ่งที่เขาอยากจะได้ บอกถึงสิ่งที่เขาจะได้จากการทำธุรกิจนี้
ครั้งแรกๆเวลาแสดงแผนอาจพูดไม่เก่ง-ไม่สมบูรณ์ มีคนสมัครน้อยหรือมากก็แล้วแต่ ต่อไปจะพูดเก่งขึ้นรายละเอียดมากขึ้นเก่งขึ้น พอเราพูดเก่งขึ้นละเอียดขึ้น แต่อาจไม่มีคนสมัครกับคุณด้วย
เราต้องพูดได้ทุกสถานการณ์ แม้ไม่สมบูรณ์แบบ “แบบกระตือรือร้น ดีกว่าสมบูรณ์แบบ”
ถ้าคุณแสดงแผนแบบกระตือรือร้นจะมีคนสมัครกับคุณ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ
คุณกระตือรือร้น ต้องแตกต่าง ถ้าคุณกระตือรือร้นคนจะตามคุณมา ถ้าคุณตายครึ่งตัวไม่มีใครอยากทำงานกับคุณ คุณต้องกระตือรือร้นตื่นเต้น เคลื่อนไหว ไม่จำเป็นต้องเสียงดัง คุณเงียบๆคุณก็ตื่นเต้นได้ ภาษาท่าทาง การเดิน การพูด ถ้าคุณแสดงแผนสมบูรณ์แบบเป๊ะ แต่ไม่มีคนสนใจ-ไม่สมัคร คุณลองตรวจสอบดู คุณขาดอะไร?ผิดพลาดอะไร? ท่าทีที่ดี เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ดูดี ต้องดูมั่นใจ ต้องเข้มแข็ง ท่าทางที่ดี เสื้อผ้าสะอาด
- คิดดี คิดถึงความฝันเสมอ ทุกวัน อย่างรุ่มร้อน
- เพื่อที่เราจะทะยานออกไปหาผู้มุ่งหวัง ออกไปเขียนแผน ออกไปแสดงแผน
- เพราะความฝัน มันจะทำให้เราไม่เลิกรามันไป มันจะกระตุ้นเรา
- ออกไปค้นหาความฝันของคนที่เรากำลังแสดงแผนด้วย
-ออกไปเขียนแผนให้เหมาะกับความฝันของเขา
จะค้นหาความฝันของลูกค้า/ผู้มุ่งหวังได้อย่างไร? ใช้คำถาม
“ถ้าคุณเป็นมีรายได้เดือนละ 100,000 บาท คุณจะทำอะไรกับชีวิตของคุณครับ”
เขาจะบอกคุณเมื่อเราถาม เวลาแสดงแผน เราต้องค้นหาความฝันชีวิตที่ดีของเขา ถามคำถามง่ายๆ
“คุณชอบงานที่คุณทำประจำไหม? คิดว่าคุณจะทำตลอดไปไหม? คุณมีลูกใช่ไหม?
ถ้าเรารู้ความฝันของผู้มุ่งหวัง เวลาแสดงแผนมันจะง่ายขึ้น เปอร์เซ็นต์จะดีขึ้น
- มีความฝันที่แข็งแกร่ง และมองหาความฝันของคนอื่นด้วย ขอให้เราปิดทุกครั้งเมื่อพูดแผนจบ แล้วมีคำถามเขา “คุณต้องการเป็นผู้บริโภคอย่างเดียว หรือทำเป็นธุรกิจครับ”
“คุณต้องการรายได้เพิ่มเยอะๆใช่ไหมครับ?
ถามคำถามที่ถูกต้อง ถูกใจ โดนใจ แค่ใครบางคนที่อยากจะสร้างธุรกิจโดยไม่ต้องมีความรู้ไม่ต้องมีประสบการณ์ ไม่ต้องเก่งในธุรกิจนี้ คุณสามารถสำเร็จได้จาก จินตนาการ ความฝัน ความต้องการ
จินตนาการ มากกว่า ความรู้ เป็นเรื่องของ เหตุผล ความจริง
คนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 90 % ใช้จินตนาการมากกว่าความรู้
ต้องมีความอยากได้ ต้องมีความต้องการที่อยากจะทำ คุณต้องอยากได้ ต้องฝันก่อน
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีความกลัว และ ความกังวล จินตนาการก็ไม่เกิด...
เราต้องเรียนรู้ก่อน ขณะที่คุณกำลังเรียนรู้จะมีคนคอยขัดขวางความรู้สึกของคุณตลอดเวลา เรียนรู้เรื่องขอบริษัทให้มากๆให้เยอะๆ จนทำให้ความรู้สึกของเรารับรู้ว่าบริษัทจ่ายจริงได้จริง คุณต้องรู้ต้องศึกษา ศึกษาต้องเรียนรู้ที่จะมีคำถามให้เกิดความมั่นใจ ต้องมั่นใจ...
ธุรกิจนี้คุณต้องเรียนรู้ที่จะสร้างธุรกิจด้วยตัวเองโดยเรียนรู้จากคน อื่นจากคนที่ประสบความสำเร็จ จะเร็วกว่าที่เรียนรู้ด้วยตนเองคุณจะสำเร็จเร็วกว่า เราใช้เวลา เพื่อแลกเวลา ไม่ใช่ ใช้เวลาแลกเงิน
ทุกอย่างในโลกนี้ต้องมีการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ได้มาแบบฟรีๆ คุ้มค่าไหมกับการที่มานั่งฟังเรื่องราวธุรกิจสุดยอดแบบนี้แล้วได้เวลา ได้เงินได้อนาคต มันต้องแลก มันต้องลงทุนด้วยเวลาที่เรามีเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง
- คุณไม่กล้าชวนใครมาร่วมธุรกิจเพราะคุณขาดข้อมูล คุณไม่มีรายชื่อเพราะคุณไม่เชื่อ
ในช่วงแรกแสดงแผนให้จำนวนครั้งมากพอ ขึ้นอยู่ที่รายชื่อมีผู้มุ่งหวัง
เพียง20 คน ยังไม่เพียงพอ งาน 2 อย่างที่ต้องทำสม่ำเสมอช่วงแรก
- การสร้างยอด หรือการแนะนำสินค้า
- การชวนคนให้มากที่สุด/อย่างต่อเนื่อง อย่างต่อเนื่อง.....
- ถ้าต้องการสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ต้องSponsor
- คนที่องค์กรไม่โต เพราะแสดงแผนไม่มากพอ-น้อยครั้งเกินไป ต้องพูดแผนให้มากๆ
- อาจจะ 8-10 ครั้ง/เดือน ในการเริ่มต้น
- ถ้าต้องการเป็นอินทรีย์ 15 ครั้ง/เดือน
- ถ้าต้องการแข็งแกร่งติดปีกต้อง 30 ครั้ง/เดือน ดูเหมือนมาก แต่ย้อนกลับไปดูงานประจำที่ทำ ต้องทำงานวันละกี่ชั่วโมง 6-8 ชั่วโมง แต่งานนี้ชวนคนวันละ 1 คน ไม่น่ายาก
- คุณแสดงแผน 8- 9 ครั้ง/สัปดาห์ คุณจะมีทีมงานอย่างแน่นอน คุณต้องแสดงแผน ต้องแสดงแผน
- คุณอยากมีธุรกิจขนาดใหญ่ คุณต้องแสดงแผน...
- คุณอยากมีองค์กรมากๆ คุณต้องแสดงแผน และให้ชุดข้อมูล
ธุรกิจนี้คุณไม่เขียนแผนการตลาดก็จบ ( อย่างต่ำ2-3 คน/สัปดาห์)
คุณต้องเตรียมอะไรบ้าง?
1.ทัศนคติที่ถูกต้อง เป็นผู้ให้ หรือ เป็นผู้ขอ
- เป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้ขาย เราไม่ได้ไปขาย แต่ เราไปให้
- เรากำลังเลือกหาคนที่สนใจธุรกิจนี้จริงๆ เรากำลังให้โอกาสทางธุรกิจแก่เขา
- ไม่ต้องสนใจเขาจะคิดอย่างไร ต้องคิดว่าเรากำลังไปให้โอกาส และหยิบยื่นธุรกิจให้เขา
2.ท่าทีกระตือรือร้นขณะเขียนแผน
- คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของธุรกิจนี้ คุณคือระบบ..ท่าทีเอาจริง มั่นใจ
- ถ้าคุณเชื่อมั่น มั่นใจ คุณสุดยอด..ธุรกิจเยี่ยม คุณคือคำตอบในธุรกิจนี้...
- คนเขาอาจไม่ดูเนื้อหา เขาดู Felling ดูแววตา อ่อนน้อมถ่อมตน แต่มั่นใจ
สรุปด้วยคำถาม
1.สมมุติว่าเราสร้างเครือข่าย แล้วสำเร็จได้ตามแผนจริงๆ คุณคิดว่าคุ้มไหม?
2.แล้วถ้ามีระบบที่สามารถทำให้คุณสำเร็จได้ตามแผนนี้จริงๆ น่าสนใจใช่ไหม?
สิ่งที่ต้องเคลียร์ ในขณะเขียนแผนการตลาด ว่าเราขายอะไร?
1.เราขายความฝัน ขณะเขียนแผนควรใช้คำถาม เช่น
- เป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีรายได้เดือนแรก 50,000 บาท
- ถ้าเราทำ 3 เดือนรับ 100,000 บาท คุณว่าดีใช่ไหม?
- คุณว่าครอบครัว หรือชีวิตของเราจะดีขึ้นใช่ไหม? มันเป็นโอกาสที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
คำถามที่ผู้ประสบความสำเร็จ ชอบถามมากที่สุด
ที่เรามาคุยกันวันนี้ เผื่อมีเงินเพิ่มเดือนละ100,000 บาท คุณว่าดีใช่ไหม? สิ่งแรกที่คุณจะทำคืออะไร?
ถ้าคุณสามารถแนะนำคนสัปดาห์ละ 2 คน พาเข้าระบบ 3 เดือน รับ1แสนบาท คุณว่าดีใช่ไหม ?
2.เราขายระบบ
ต้องถามทุกครั้งเวลาเขียนแผนการตลาด ขายความฝัน
พูดแผนดีอย่างไร แต่เขาไม่มีความเชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้ เขาก็ไม่สนใจ
สิ่งที่จะทำให้เขามั่นใจได้ นั่นคือระบบให้เขาทำงาน ขณะพูดแผนคุณพูดเรื่องระบบกี่ครั้ง?
คุณได้ตอกย้ำไหมว่า? นี่คือเครื่องมือที่สำคัญ, นี่คือสิ่งที่จะทำให้คุณสำเร็จ, นี่คือโอกาสที่เรามั่นใจมากๆ
3.เราขายงานประชุมครั้งต่อไป
พูดแผนดีอย่างไร แต่ถ้าไม่มีคนมางานนี้ก็จบเพราะที่ประชุมมันจะเกิด People Power
สรุปด้วยคำถาม
1.สมมุติว่าเราสร้างเครือข่าย แล้วสำเร็จได้ตามแผนจริงๆ คุณคิดว่าคุ้มไหม?
2.แล้วถ้าเผื่อมีระบบที่สามารถทำให้คุณสำเร็จได้ตามแผนนี้จริงๆ น่าสนใจใช่ไหม?
คำถามปิดการขาย
2 ดาว รายได้วันละ 10,000 บาท
5 ดาว รายได้วันละ 40,000 บาท
คุณสนใจแบบไหนครับ?
2 ดาว รายได้วันละ 15,000 บาท ลงทุน 3,500 บาท (Promotion)
5 ดาว รายได้วันละ 40,000 บาท ลงทุน 10,500 บาท (Promotion)
คุณพร้อมที่จะร่วมงานกับเราใช่ไหมครับ?

Step7. การติดตามผล
ถามคนใหม่ว่ารายการต่อไปนี้เขาผ่านหรือยัง? เข้าใจหรือยัง?
-แผน-สินค้า-ถามความรู้สึก-การเข้าร่วมงานประชุม -มีลูกทีมหรือยัง? -มีรายได้หรือยัง?
ติดตามผลอย่างรวดเร็ว ทันที ไม่เช่นนั้นความฝันของผู้มุ่งหวังจะลดลง เพราะรอบข้างเขามีแต่คนเป็นลบ เป็นลบเป็นคนที่ไม่มีความฝัน
- ติดตามเขาไปเพื่อพูดเรื่องความฝัน กระตุ้นเขาอีกครั้ง ถามคำถามเขาอีก พูดถึงเรื่องอิสรภาพ...แล้วเขาจะหาอะไรมาทดแทนได้ล่ะ?
- กลับไปสร้างความฝันเกี่ยวกับตัวเขา แล้วเขาจะมา,เขาจะมาร่วมกับเรา
- เราต้องลงมือทำอย่างต่อเนื่องให้เอกสารเขา ให้แผ่นCD เขา ชวนคนต่อไปออกไปแสดงแผนติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ
ต้องตรวจสอบว่าลงมือทำขนาดนี้แล้ว รายได้ไม่มากเพราะมันเพิ่งเริ่ม จดบันทึกเอาไว้
- ตรวจสอบดูความก้าวหน้า ตรวจสอบดูรายได้ ถ้าเราไม่อยากทำงานตลอดชีวิต ต้องมีเป้าหมายตรวจสอบ แล้วออกไปทำงาน
สรุป จุดประสงค์ของการติดตามผล
1.ตอบข้อสงสัยกังวล เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ เช่น ทุน เวลา ประสบการณ์ ความเสี่ยง
2.เพื่อตัดสินระดับความสนใจของเขา
3.เพื่อแนะนำวิธีเริ่มต้นธุรกิจให้เขา

Step8. บทบาท
-โปรโมท อัฟไลน์ และถามนำ
-ตั้งใจฟัง ช่วยเสริมบ้าง
-เตรียมอุปกรณ์ในการทำงาน
-เตรียมแชร์ประสบการณ์
-เตรียมสื่อ ชวนเข้างาน โปรโมทงานประชุม

Step9. การเลียนแบบ
- เป้าหมายในการทำธุรกิจนี้คือ คุณต้องทำตามระบบ
- บอกคนใหม่ๆที่เข้ามาในองค์กรของเราว่า “ระบบจะช่วยให้คุณสำเร็จ”
- อย่าให้ทีมงานหรือลูกทีมติดตัวเรา แต่ให้ลูกทีมติดระบบ
- สอนให้ลูกทีมตกปลากินเอง ให้ทุกคนทำงานด้วยตัวเองได้
- จุดมุ่งหมายในธุรกิจนี้คือ “คนสร้างคน” ไม่ใช่ “คนล่าคน”
“ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ ที่ในอดีตทำไม่ได้ คุณจงอย่าทำในสิ่งที่ทำไม่ได้”
การถ่ายสำเนาตัวคุณเอง (หรือ การดำเนินการ)ให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณทำ เป็นสิ่งที่สำคัญและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้เขาเลียนแบบ หรือCopyทำเหมือนกันทุกคน
“ผู้ชนะเป็นผู้ทำในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ผู้แพ้ยอมให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น”
“ผู้ชนะเขาโปรแกรมตัวเองให้ประสบความสำเร็จทุกวัน”



สนใจธุร่วมธุรกิจกับทีมผมคลิกดูข้อมูลครับ
Tel.084-6384684






ใครคือผู้มุ่งหวังตัวจริงของคุณ เมื่อคุณรู้แล้วว่า คนที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับคุณ เขาเข้ามาเพราะอะไร และคุณควรจะนำเสนอสิ่งใดให้กับเขา แต่ก็ยังมีองค์ปร


ใครคือผู้มุ่งหวังตัวจริงของคุณ
เมื่อคุณรู้แล้วว่า คนที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับคุณ เขาเข้ามาเพราะอะไร และคุณควรจะนำเสนอสิ่งใดให้กับเขา แต่ก็ยังมีองค์ประกอบอีกข้อหนึ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ คุณควรจะพูด หรือนำเสนอสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นประโยชน์ให้กับใคร หรือพูดง่ายๆให้เข้าใจ ก็คือ ใครหละคือผู้มุ่งหวังตัวจริงของคุณ
ไม่ใช่ว่า คุณจะพูดเรื่องธุรกิจเครือข่ายได้กับทุกคน คุณต้องพูดให้ถูกคน จึงจะได้ผล ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณลองเอาเนื้อหมูไปขายให้กับ คนที่นับถือศาสนาอิสลามเพื่อใช้ประกอบอาหารดูซิครับ คุณว่าคนๆนั้นเขาจะซื้อเนื้อหมูจากคุณไม๊..ผมว่าคุณคงจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

แล้วพูดกับใครหละ จึงจะได้ผล คุณคิดว่าน่าจะพูดกับ เพื่อน ญาติพี่น้อง ลุง ป้า น้า อา หรือใครก็ได้ที่คุณรู้จักและนึกถึงใช่ไม๊ (ก็อัพไลน์ของคุณเขาสอนมาอย่างนั้น ไม่ใช่หรือครับ) ผมตอบแทนคุณได้เลยครับว่า พูดไปก็เสียนํ้าลายเปล่า เขาไม่มีวันที่จะสมัครเข้าร่วมธุรกิจกับคุณง่ายๆหรอก ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ เขาอาจจะไม่ฟังคุณด้วยซํ้า ดีไม่ดี นานๆเข้า คุณอาจจะเป็นบุคลที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับพวกเขาเลยก็ได้

คุณค้องพูดให้ถูกคนครับ แล้วใครหละ...ก็ คนที่เห็นโอกาส คนที่สนใจในธุรกิจเครือข่าย และต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ อย่างจริงจัง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มตนอย่างไร ทำธุรกิจอย่างไร และกำลังต้องการคำตอบ หรือความรู้ที่จะนำมาแก้ปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ หรือไม่ก็พูดกับคนแบบคุณ ที่กำลังอ่านบทความของผมอยู่ ตลอดจนคนที่เข้ามาในเว็บไซดต์ของคุณ และลงทะเบียน โดยให้ชื่อ ที่อยู่อีเมล์ พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ (ที่เขาลงทะเบียนกับคุณ เพราะเขาสนใจที่จะรับข้อมูล และพร้อมที่จะรับฟังในสิ่งที่คุณพูดอยู่แล้ว)

ยิ่งเป็นคนที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายอยู่ หรือเคยทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อน จะดีมากเลย เพราะถ้าคุณสปอนเซอร์เขาเข้ามาได้ เครือข่ายของคุณจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น เพราะเขาทำธุรกิจเครือข่ายอยู่แล้ว มีประสบการณ์อยู่บ้าง และด้วยวิธีที่สุดยอดของผม เขาจะต้องมีความสนใจมากกว่าคนกลุ่มอื่นแน่นอน และจะเป็นการง่ายมากที่จะสปอนเซอร์คนกลุ่มนี้

และเมื่อ เขาเข้ามาหาคุณเอง 90%เลยครับ ที่คุณจะสามารถเปิดใจเขาได้อย่างแน่ นอกเสียจากว่า คนๆนั้นจะมีปัญหาในเรื่องเงินลงทุนอยู่ นอกนั้นจะตอบตกลง เข้าร่วมทำธุรกิจกับผม

เห็นหรือยังครับว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องยากเลย ถ้าเราหาผู้มุ่งหวังที่แท้จริง และนำเสนอในสิ่งที่เขาต้องการ


                                               สนใจธุร่วมธุรกิจกับทีมผมคลิกดูข้อมูลครับ
Tel.084-6384684